วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Glock


 Glock19Gen 4 

        บริษัทกล็อกผลิตปืนเป็นครั้งแรก ตามความต้องการของรัฐบาลออสเตรีย มีข้อกำหนด 17 ข้อ แม้จะมีคู่แข่งร่วมชาติระดับยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในวงการปืนมาก่อน เช่น สไตเออร์ แต่กล็อกกลับเอาชนะได้ด้วยการออก แบบใหม่หมด ได้ปืน 9 มม. ลูกดกโครงโพลิเมอร์ ที่จะเป็นผู้นำตลาดต่อมาอีกหลาย สิบปี กล็อกตั้งชื่อรุ่นด้วยตัวเลข 17 ตามโจทย์ที่ได้รับแต่แรก จากนั้นออกรุ่นใหม่ไล่เรียงคือ 18, 19, 20…เรื่อยมาจนปัจจุบันมี กล็อก 43 เป็นรุ่นล่าสุด ระบบการทำงานกล่าวได้ว่าเหมือนกันทั้งตระกูล มีที่แตกต่างคือ กล็อก 18 ที่โรงงานออกแบบชุดลั่นไกให้เป็นปืนพกกล ยิงรัวได้



         กล็อก 17 ขนาดตัวมาตรฐานทหาร ลำกล้อง 4.5 นิ้ว เข้าประจำการกองทัพออสเตรียในปี ค.ศ. 1982 แต่รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ กล็อก 19 ขนาดตัว “คอมแพ็ค” ลำกล้อง 4 นิ้ว ที่ให้ความเร็วหัวกระสุนเต็มสภาพ โดยเพิ่มความคล่องตัวให้ใช้งานได้ทั้งแบบพกซองนอกและพกซ่อนใต้ชายเสื้อ ขนาดกระสุน 9 มม. พาราฯ ซองกระสุน 15 นัด เท่ากับลูกโม่ .38 โครงเล็กสามกระบอกรวมกัน“

         เมื่อมีคู่แข่งมากมายผลิตปืนตามแบบ กล็อก คือโครงโพลิเมอร์ และเข็มแทงชนวนพุ่งกระแทกแทนนกสับ กล็อกต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงใช้ชื่อรุ่นเดิม นักนิยมปืนกล็อกจึงเรียกปืนแต่ละช่วงว่า Gen (ย่อจาก Generation : ชั่วคน) โดยในปี ค.ศ. 1988 เริ่ม Gen 2 สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ผิวกันลื่นสองข้างด้ามสูงขึ้นเล็กน้อย, หน้าและหลังด้ามทำร่องกันลื่นเป็นตาราง, ซองกระสุนเสริมโลหะด้านใน, สปริงลำเลื่อนล็อกไว้กับแกนสปริง และในช่วงหลังของ Gen 2 เพิ่มสลักขวางโครงเหนือสลักไกเสริมความแข็งแรงให้โครงปืน
        ปี ค.ศ. 1996 เริ่ม Gen 3 สังเกตได้จากโครงปืนคือด้ามด้านหน้ามีร่องนิ้ว, หลุมกำหนดตำแหน่งนิ้วโป้งสองข้างด้าม และรางอุปกรณ์ที่โครงปืนใต้ลำกล้อง ด้านขวาของตัวปืนเป็นขอรั้งปลอกแบบใหม่ เพิ่มสันให้สังเกตได้เมื่อมีกระสุนในรังเพลิง พร้อมกันนี้กล็อกพยายามออกแบบซองกระสุนให้ใช้ได้ทั้งซ้ายขวา ซึ่งจุดนี้ไม่สำเร็จเท่าที่ควร ทั้งสามรุ่นที่กล่าวแล้วนี้ เป็นการเรียกขานกันเองในหมู่ผู้ใช้ 
      จนกระทั่งปี ค.ศ. 2010 ทางบริษัทจึงยอมรับชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการ เช่นปืนนายแบบสัปดาห์นี้ สลักชื่อรุ่นเป็น 19 Gen 4 ไว้ที่ลำเลื่อนอย่างชัดเจน และแสดงแหล่งผลิตสหรัฐทั้งบนโครงปืน ลำเลื่อน และลำกล้อง มีเพียงซองกระสุนที่ยังบ่งต้นทางออสเตรีย กล็อก Gen 4 ต่างจาก Gen 3 ที่เปลี่ยนหลังด้ามได้ และภายในใช้สปริงลำเลื่อนสองชั้น ซึ่งทำให้แกนใหญ่กว่าสปริงรุ่นเก่า ช่องคุมสปริงที่ปลายลำเลื่อนใหญ่ขึ้นตามส่วน ใช้สลับกันไม่ได้

       โดยรวม กล็อก 19 Gen 4 เป็นปืนระดับมาตรฐานทหารตำรวจ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา คล่องตัว ความแม่นยำสูง ทนทาน ดูแลง่ายทั้งส่วนโครงปืนและ การเคลือบผิวกันสนิม ขายมานานมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกซื้อแต่งได้หลากหลาย มีจุดที่ต้องระวังสองจุด หนึ่งคือถ้ายิงกระสุนซ้อมหัวตะกั่วจำนวนมากระดับร้อยนัดขึ้นไป ควรล้างคราบตะกั่ว ในลำกล้องก่อนยิงกระสุนหัวแข็ง สองคือในการพกเข้าซองต้องมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดขวางหน้าไก ซึ่งจะทำให้ปืนลั่นได้หากฝืนดันตัวปืนเข้าซอง.“


ข้อมูลสรุป Glock 19 Gen 4 
ขนาดกระสุน 9 มม. พาราฯ (9x19mm.) 
ความจุ 15 นัด ความยาวลำกล้อง 102 มม. (4 นิ้ว) เกลียวเหลี่ยมบิด 
มิติยาวxสูงxหนา : 174x118x32 มิลลิเมตร 
น้ำหนัก 650 กรัม พร้อมซองกระสุน 
แรงเหนี่ยวไก 3,000 กรัม (6.5 ปอนด์) 
วัสดุ เหล็ก (ลำกล้อง, ลำเลื่อน), โพลิเมอร์ (โครงปืน, เสริมรางเหล็ก) 
อื่น ๆ หลังด้ามถอดเปลี่ยนเพื่อ ปรับขนาดได้ 
ลักษณะใช้งาน พกซองนอกหรือในชายเสื้อ, ต่อสู้ระยะปานกลาง 
ตัวเลือกอื่น HK VP9, SIG P320,Ruger SR9


ขอบคุณข้อมูลจากท่าน ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
 https://www.dailynews.co.th/article/326101

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น